ก่อนจะไป ทัวร์หิมะ ญี่ปุ่น หรือเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว มาเช็กกันก่อนดีกว่าว่า ญี่ปุ่น หิมะตกเดือนไหน ? โดยฤดูหนาวของญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วง เดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 2-10 องศา บางพื้นที่เช่นทางตอนเหนืออย่างเกาะฮอกไกโด จะมีหิมะตกหนักมาก น้ำในลำธารหรือแม่น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง ขณะที่ทางตอนใต้อาจยังไม่มีหิมะ แต่อุณหภูมิก็จะค่อยๆ ลดต่ำลง โดยปกติมีการคาดการณ์ว่า หิมะแรกจะเริ่มตกตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป และปริมาณหิมะจะทับถมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วงพีคที่สุดจะอยู่ราวๆ ปลายเดือนธันวาคมไปจนถึงมกราคม จนเราสามารถมาสนุกกับการเล่นสกี ชมเทศกาลหิมะ การแกะสลักน้ำแข็ง ชมเทศกาลประดับไฟ ล่องเรือหรือนั่งบอลลูนชมภูเขาหิมะ หรือไปแช่ออนเซ็นฟินๆ ก็ได้จนถึงเดือนมีนาคมเลย

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปเที่ยวหิมะญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่ต้องวางแผนให้ดีก็คือ เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์เครื่องกันหนาว ต้องเตรียมไปให้พร้อมและสามารถกันหนาวได้จริง เพราะหากเสื้อผ้าหนาไม่พอ ไม่สามารถทนกับสภาพอากาศที่เย็นยะเยือก อุณภูมิต่ำติดลบและหิมะหนาๆ ได้ รับรองว่าคงจะเที่ยวไม่สนุกแน่ แถมอาจทำให้ป่วยได้ ดังนั้น เตรียมเลย เสื้อโค้ทหนารองรับอากาศติดลบได้ เสื้อฮีทเทค ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า โดยเฉพาะบางพื้นที่มีหิมะตกหนัก ต้องระวังอันตรายจากหิมะ อย่างเช่น การลื่นล้ม ดังนั้นชาวไทยมือใหม่เรื่องหิมะอย่างเราก็ต้องเดินกันอย่างระมัดระวัง ทางที่ดีควรหารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะโดยเฉพาะไว้ด้วยก็ดีนะ

เริ่มที่พิกัดแรกของการไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว อยากสัมผัสอากาศหนาวสุดขั้ว พร้อมชมหิมะฟูๆ หนาๆ แน่นอนว่าต้องไปยังเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ภูมิภาคที่อยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น กับเมืองหลวงอย่าง ซัปโปโร (Sapporo) มาที่นี่ คุณจะได้เต็มอิ่มไปกับบรรยากาศแสนโรแมนติก ท่ามกลางหิมะขาวโพลนอย่างแน่นอน และพิกัดห้ามพลาด เมื่อมาถึงเมืองซัปโปโรคือ อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Hokkaido Government Office) หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญ จากนั้นลองไปจิบเบียร์แก้หนาวที่ พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) แหล่งผลิตเบียร์ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น หรือถ้าเป็นช็อกโกแล็ตเลิฟเวอร์ ก็ต้องปักหมุดตรงไปที่ โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมสวยๆ และไฟประดับสุดน่ารักตลอดช่วงฤดูหนาว ไม่เพียงเท่านี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีการจัดงาน เทศกาลหิมะซัปโปโร (Saporo Snow Festival) เทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ประจำฤดูหนาว ที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2 ล้านคนจากทั่วโลกเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะมีกิจกรรมการจัดแสดงประติมากรรมแกะสลักน้ำแข็ง จากการแข่งขันให้ได้ชมกันแบบเพลินตาด้วย  

โดยลานจัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโรมีทั้งหมด 3 แห่ง คือ 1) ลานจัดงานโอโดริ (Odori Site) จัดขึ้นที่สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร แบ่งออกเป็น 12 โซน ได้แก่ ลานไอซ์สเก็ต ลานประชาชน ลานหิมะ ประติมากรรมหิมะขนาดกลาง ลานนานาชาติ และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีไลท์อัพประดับไฟตอนกลางคืนอีกด้วย 2) ลานจัดงานซูซูกิโนะ (Susukino Site) จัดขึ้นที่บริเวณย่านซูซูกิโนะ ซึ่งเป็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด ภายในงานจะเป็นส่วนของการจัดการแข่งขันประติมากรรมหิมะ ที่มีทีมผู้เข้าแข่งขันส่งผลงานเข้าประกวดมากมาย และยังมีถนน Illumination Street ที่มีการประดับไฟสวยงามไว้ตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีโซนไอซ์บาร์ที่มีบริการเครื่องดื่มอีกด้วย และพิกัดที่ 3) ลานจัดงานสึโดม (Tsudomu Site) จัดขึ้นภายใน Sapporo Community Dome โดมอเนกประสงค์ของเมืองซัปโปโร ที่โซนนี้จะเต็มไปด้วยกิจกรรมและเครื่องเล่นต่างๆ อย่างเช่น สไลเดอร์หิมะขนาดยักษ์ บ้านตุ๊กตาหิมะ และอื่นๆ อีกมากมาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเด็กและมากันเป็นครอบครัวสุดๆ 

พิกัดต่อมาในการ ทัวร์หิมะ ญี่ปุ่น ยังคงอยู่กันที่เกาะฮอกไกโด (Hokkaido) กับ เมืองโอตารุ (Otaru) อีกเมืองที่ห้ามพลาด สำหรับคนอยากชมหิมะไปพร้อมกับพิกัดถ่ายรูปสวยๆ ชิคๆ มากมายทั่วเมือง เริ่มต้นแวะไปกันได้ที่ คลองโอตารุ (Otaru Canal) จุดไฮไลท์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คลองเป็นคลองที่ไหลผ่านใจกลางเมือง อดีตเคยใช้สำหรับขนถ่ายสินค้าไปยังคลังสินค้าตามแนวคลอง ปัจจุบันบริเวณนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร ให้นักท่องเที่ยวมาแวะชม 

ช่วงกลางวันจะมีศิลปินมาแสดงผลงานศิลปะ ส่วนตอนกลางคืนจะมีการจุดตะเกียงประดับไฟ สร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก บริเวณริมคลองนี้ในช่วงฤดูหนาวมีการจัดงานเทศกาลโอตารุ สโนว์สตอรี่ (Otaru Snow Story) โดยจะมีการประดับไฟสวยงาม ส่องประกายระยิบระยับท่ามกลางหิมะสีขาว งานจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดไป 

และเพราะเป็นเมืองท่า แน่นอนว่าที่นี่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสดใหม่ มีตลาดน่าไปอย่าง ตลาดซังคาคุ รวมถึงที่นี่ ก็ขึ้นชื่อเรื่องขนมหวานน่าลิ้มลองมากมาย อย่าลืมแวะไปที่ ร้าน Otaru Milk Plant ร้านฟาร์มยามานากะ สาขาโอตารุ โรงกลั่นเหล้าทานากะ คิกโคกุระ ที่มีสาธิตการผลิตเหล้าแบบสดๆ ให้ชมด้วย ที่สำคัญคือสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะรวมอยู่บริเวณใจกลางเมือง นักท่องเที่ยวสายชิลอย่างเรา สามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นชมเมืองได้สบายๆ หรือจะลองนั่งเรือชมวิวสองฝั่งคลองก็น่าสนุกดีเหมือนกันนะ 

สำหรับทริป เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ใครอยากสัมผัสบรรยากาศของฤดูหิมะที่แท้จริง ต้องไม่พลาดการมาสกีรีสอร์ โดยเฉพาะที่ “เมืองนิเซโกะ” (Niseko) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ตั้งอยู่ใน อำเภออะบุตะ (Abuta) กิ่งจัหวัดชิริเบะชิ (Shiribeshi) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ที่เมืองนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของฤดูหนาว ทิวทัศน์สุดอลังของ “ภูเขาโยเทอิ”  (Mount Yōtei) ที่มีรูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจิ และได้ชื่อว่าเป็นฟูจิแห่งฮอกไกโด 

โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ถือเป็นช่วงพีคของที่นี่เลยล่ะ เพราะจะมีผู้คนมาพักผ่อนตามรีสอร์ทต่างๆ เพื่อทำกิจกรรมสนุกในช่วงฤดูหนาว เช่น นั่งกระเช้าชมวิวป่าหิมะบนภูเขา เล่นสกีหิมะ หรือสโนว์บอร์ด ซึ่งสกีรีสอร์ทยอดนิยมของนิเซโกะ ก็มีอยู่ 4 แห่งด้วยกัน ได้แก่ Grand Hirafu, Niseko Village, Niseko Annupuri Kokusai Ski Area และ Hanazono Niseko Resort แต่ละแห่งก็จะมีจุดที่นัดท่องเที่ยว สามารถขึ้นกระเช้าไปยังจุดเล่นสกีบนภูเขาได้ และสามารถเล่นสกีได้ทุกที่บนภูเขาอีกด้วย 

นอกจากการทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์แล้ว การได้มาอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็นอุ่นๆ ที่นิเซโกะก็ดีและฟินไม่แพ้ที่ไหนเลย แน่นอนว่าที่นี่ก็มีออนเซ็นขึ้นชื่ออยู่หลายแห่งเหมือนกัน เช่น Yugokorotei , Yukichichibu Onsen และ Makkari Hot Spring แหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ช่วยให้ผ่อนคลายหายปวดเมื่อยจากการเดินเล่นมาทั้งวันได้ดีสุดๆ 

ต่อกันที่อีกหนึ่งพิกัดฮอตฮิตตลอดกาล สำหรับทริป ทัวร์หิมะญี่ปุ่น ที่คุณจะได้เจอหิมะฟูๆ ท่วมๆ ละลานตา ก็ต้องมาที่ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) หมู่บ้านโบราณสไตล์กัสโซ่ สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่บ้านเรือนต่างๆ มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปีเลยทีเดียว ทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ในปี 1995 เพราะความมีเอกลักษณ์และทรงคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมอีกด้วย

นอกจากนั้น บรรยากาศ ทิวทัศน์ และความงดงามของหมู่บ้านนี้ สามารถดึงดูดความสนใจจากนักเดินทางจากทั่วโลกให้มาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่พีคและได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คงจะเป็นช่วงฤดูหนาว ที่ทั่วทั้งหมู่บ้านจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ รวมไปถึงตามแนวยาวของเทือกเขา ให้ความรู้สึกราวกับเรายืนอยู่ในทุ่งปุยเมฆสีขาว และในช่วงเวลากลางคืน ก็จะมีการประดับไฟ Shirakawa-go Light Up ระยิบระยับ ให้ความรู้สึกสวยงดงามและโรแมนติกสุดๆ ไปเลย งานแสดงไฟ 

ภายในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ นอกจากจะมีบ้านสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้เราได้เดินชม และถ่ายรูปสวยๆ กันแล้ว ยังมีบ้านหลายหลังที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ศาลเจ้า และที่พักโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลองสัมผัสบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นกันแบบเต็มอิ่ม และที่นี่ยังมีพิกัดน่าสนใจอีกมากมาย เช่น ศาลเจ้าชิราคาวะ ฮะจิมัน (Shirakawa Hachiman Shrine) วัดเมียวโอะเซนจิ (Myozenji) หอผลิตสาเกโดบุโรคุ (Doburoku) และทุกๆ ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม จะมี งานเทศกาลสาเก ใครเป็นสายนี้ก็อย่าพลาด แวะไปเปิดลองชิมสาเกของหมู่บ้านมรดกโลกกันได้ 

ปิดท้ายทริปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวกันที่ พิกัด ล่องเรือตัดหิมะ เมืองอะบะชิริ (Abashiri City) ฮอกไกโด (Hokkaido) กิจกรรมนี้เหมาะมากที่จะชวนเพื่อนๆ ชาวแก๊งค์ของคุณ ไปสัมผัสประสบการณ์สุดฟินบนเรือตัดน้ำแข็ง กิจกรรมสุดฮอตฮิตที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาว ในฮอกไกโดต้องมาลองซักครั้ง ธารน้ำแข็งอะบาชิริ ตั้งอยู่แถบชายฝั่งทะเลโอค็อตสค์ (Sea of Okhotsk) โดยในช่วงกลางเดือนมกราคม ถึงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี ที่ทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk) บริเวณเลียบฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอกไกโด จะมีธารน้ำแข็ง (Drift Ice) ไหลมาจากทะเลทางเหนือ 

โดยเรือตัดน้ำแข็งสำหรับให้บริการเที่ยวชมธารน้ำแข็งอะบะชิริ คือ “เรือออโรร่า (Aurora)” Aurora Sightseeing Boats ที่ออกจากท่าเรืออะบาชิริ (Abashiri Port) เป็นเรือขนาดใหญ่ที่ล่องไปบนผืนน้ำทะเล พร้อมกับค่อยๆ ตัดแผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่ให้แตกออก นำพาคุณไปชมธารน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิดจากจุดชมวิวบนดาดฟ้าเรือ ในอุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ละวันออกจากท่าเรือประมาณวันละ 4-5 รอบ และนอกจากกิจกรรมล่องเรือตัดน้ำแข็งชมวิวหิมะและน้ำแข็งสวยๆ แล้ว หากโชคดีในระหว่างที่ล่องเรือ ก็อาจได้พบสัตว์ป่าหายากที่มีอยู่ตามธรรมชาติ อย่างเช่น นกอินทรีทะเลสเตลเลอร์ (Steller’s sea eagle) และแมวน้ำบนธารน้ำแข็ง ได้อีกด้วย