ที่เที่ยวเวียดนามเหนือที่แรกที่อยากแนะนำเพื่อนๆ ก็คือ อ่าวฮาลอง หรือ ฮาลองเบย์ (Halong Bay) หนึ่งในสถานที่เที่ยวของประเทศเวียดนามที่ขึ้นชื่อระดับโลก! โดยองค์กรยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ.1994  และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอย่างมาก ที่นี่มีกิจกรรมเที่ยวแบบชิลๆ รอบอ่าว รอให้ทุกคนได้ไปดื่มด่ำกับธรรมชาติในแบบ Slow Life อยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น การล่องเรือชมความงดงามของหมู่บ้านริมน้ำ พายเรือลอดถ้ำ นั่งเรือเที่ยวชมถ้ำสวรรค์ (Thien Duong : Paradise Cave) ท่ภายในเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่ยังมีชีวิต! หรือจะไปนั่ง Queen Cable Car กระเช้าลอยฟ้า 2 ชั้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก! ซึ่งจุคนได้มากถึง 250 คนต่อเที่ยวก็น่าสนใจไม่แพ้กัน!

ที่เที่ยวเวียดนามเหนือต่อมา ถือเป็นพิกัดไฮไลท์ที่มีวิวสวยและน่าไปแวะสุดๆ หากว่าใครไม่ได้มาเช็คอินที่ยอดเขาแห่งนี้ ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงเวียดนามเหนือ นั่นก็คือ ยอดเขาฟานซิปัน แลนด์มาร์คแห่งเมืองซาปานั่นเอง ยอดเขาฟานซิปันมีความสูงราว 3,143 เมตร ถือเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของเวียดนาม และยังสูงที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีนอีกด้วย ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน นักท่องเที่ยวอาจจะต้องออกแรง เดินขึ้นเขากันไปประมาณ 9 กิโลเมตร เพื่อขึ้นไปชมวิวหมอกสุดอลังบนยอดเขา แต่ตอนนี้มีกระเช้าไฟฟ้าให้นั่งสบายๆ ขึ้นไปเที่ยวกันได้แบบชิลๆ พร้อมกับชมวิวไปด้วย ใช้เวลานั่งไปประมาณ 15-20 นาที นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาฟานซิปัน ก็จะได้ถ่ายภาพวิวยอดเขา และทะเลหมอกสวยๆ เหมือนลอยอยู่บนก้อนเมฆเลยล่ะ แต่ถ้าใครเป็นสายลุยอยากเทรกกิ้งขึ้นฟานซิปันก็ทำได้ เพียงแต่ต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำทาง โดยจะใช้เวลาเดินประมาณ 2 วัน 1 คืนเท่านั้นนน 

พิกัดต่อมาของที่เที่ยวเวียดนาม เวียดนามเหนือมีอะไรน่าเที่ยว ก็คือ หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองซาปาประมาณ 3 กิโลเมตร หนึ่งในหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดของเวียดนาม! แต่แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย พิกัดเที่ยวที่หมูู่บ้านนี้ จะเน้นการมาสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตวัฒนธรรมชนเผ่าม้งดำ จะเหมาะกับคนที่เป็นสายเดิน ลุยๆ เพราะหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนเชิงเขาเมืองหัว ซึ่งรายล้อมด้วยผืนนาขั้นบันได นอกจากวิวแล้วเรายังจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวม้งดำ ได้ชมการแสดงประจำถิ่น และซื้อของที่ระลึกของแฮนด์เมดสวยๆ จากชาวบ้านด้วยน้าาา

ถัดมาจากหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต สำหรับคนที่อยากดูความสวยงามของนาขั้นบันได แต่ไม่อยากเดินทางออกไปไกลมากนัก แนะนำให้ไปปักหมุดที่หุบเขาเมืองหัว เมืองซาปา ที่มีผืนนาขั้นบันไดซึ่งรายล้อมไปดวยสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าให้ได้พักสายตากัน ที่นี่ในฤดูฝนจะเขียวขจีไปด้วยนาขั้นบันได ที่อยู่บนความสูงกว่า 1,000 เมตร กินเนื้อที่รวม 6 ตำบล ราวๆ 8 ตารางกิโลเมตร และนับเป็นผืนนาขั้นบันไดที่ใหญ่ที่สุดของซาปาเลยด้วยนะ บวกกับความสวยธรรมชาติสรรค์สร้าง ด้วยการมีลำน้ำฮวา ความยาว 15 กิโลเมตรไหลผ่านหุบเขาแห่งนี้อีก บอกเลยว่าสายเที่ยวชมธรรมชาติ ชอบวิวคลีนๆ กรีนๆ ต้องไม่พลาด แวะมาเที่ยวเวียดนามเหนือ ที่หุบเขาเมืองหัว ซาปา ดูซักครั้งให้ได้!

โบสถ์หินแห่งเมืองซาปา หรือ โบสถ์ซาปา (Sapa Stone Church) อีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่หลายคนอาจเคยเห็นผ่านตา จากเว็บหรือเพจแนะนำที่เที่ยวของเมืองซาปา ที่นี่เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สุดในเมืองมีอายุร้อยกว่าปี สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1932 แบบสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศส ในช่วงที่้เวียดนามอยู่ภายใต้อาณานิคม ที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่สวยงาม มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา ของชาวเวียดนามที่นับถือคริสต์อยู่ โดยจุดไฮไลท์ของโบสถ์หินซาปาคือสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสในสไตล์คาทอลิกแบบดั้งเดิม และหอระฆังที่มีกางเขนประดับอยู่ด้านบน รวมทั้งความสวยงามภายในโบสถ์ โดยเฉพาะหน้าต่างกระจกสีที่มีลวดลายงดงาม ถ่ายทอดเรื่องราวภาพชีวิตของพระเยซู นอกจากนี้ บริเวณด้านนอกยังรายล้อมด้วยสวนสวย ที่มีต้นไม้ใหญ่อายุร้อยกว่าปีให้ได้เก็บภาพสวยๆ กันด้วย

ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ ทะเลสาบน้ำจืดสีเขียวขนาดใหญ่ แลนด์มาร์คหลักใจกลางเมืองฮานอย ที่ต้องมาแวะชมและชิลที่นี่ โดยชื่อทะเลสาบคืนดาบนั้นมาพร้อมกับตำนาน ดาบวิเศษและเต่ายักษ์ศักดิ์สิทธิ์  โดยจุดเด่นของทะเลสาบกลางเมืองนี้คือ มีเจดีย์โบราณตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลสาบ เจดีย์นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ซึ่งทะเลสาบนี้นอกจากมีบรรยากาศที่สวยงาม เงียบสงบ โอบล้อมธรรมชาติสวยงามแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การสร้างชาติของเวียดนามและมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามน่าสนใจมากมาย อย่างเช่น หอคอยเต่า สะพานเทฮุกหรือสะพานแสงอาทิตย์ วัดเนินหยกหรือวัดหงอกเซิน (Den Ngoc Son) ที่ล้วนเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของทะเลสาบแห่งนี้นนัั่นเอง ใครอยากได้ฟีลชิลๆ ก็มาเดินเล่นช่วงเช้าๆ หรือช่วงค่ำๆ ก็ได้หมด เพราะมีการจัดแสงไฟประดับตามจุดต่างๆ ภายในสวย สวยไปอีกแบบนะ ใครมาเที่ยวเวียดนามเหนือแล้วล่ะก็ อย่าพลาดแวะเช็คอินที่นี่ให้ได้น้าาา

สุสานขนาดใหญ่ของอดีตผู้นำประเทศเวียดนาม “ประธานาธิบดีโฮจิมินห์” หรือชื่อที่ชาวเวียดนามเรียกว่า ลุงโฮ ผู้นำการเคลื่อนไหวไปสู่การประกาศอิสรภาพของเวียดนาม และเป็นบุคคลสำคัญในการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม หรือรู้จักกันในชื่อ เวียดนามเหนือ สุสานนี้ตั้งอยู่ที่จตุรัสบาสติงห์ ใจกลางกรุงฮานอย อยู่ห่างจากทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเวียดนามที่มีคนเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด 

สุสานโฮจิมินห์ มีความน่าสนใจและไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม สุสานนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1973 หลังจากลุงโฮเสียชีวิต 4 ปี (เมื่อวันที่ 02 กันยายน ค.ศ.1969) สร้างด้วยหินอ่อน หินแกรนิต และไม้มีค่าจากทั่วประเทศ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสุสานเลนนินในกรุงมอสโคว ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสไตล์เวียดนาม และภายในห้องโถงใหญ่จะมีโลงแก้วซึ่งบรรจุร่างของลุงโฮผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนามนอนสงบนิ่งอยู่ภายใน

สะพานกระจกบาจลอง ตั้งอยู่ใน Moc Chau Island Mountain Park and Resort ตำบลเหมื่องซาง หมกโจว (Moc Chau) จังหวัดเซินลา (Son La) ตั้งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.5 ชั่วโมง เป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ในเวียดนาม ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 นี่เอง โดยชื่อ Bach Long แปลว่า มังกรขาว มาจากสีของสะพานนั่นเอง ที่นี่ได้รับการบันทึกว่าเป็นสะพานกระจกที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 632 เมตร สูงจากพื้น 150 เมตร กระจกที่ใช้ทำสะพาน เป็นกระจกนิรภัยนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส มีความแข็งแรง ปลอดภัย รองรับนักท่องเที่ยวได้สูงสุด 450 คน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวท้าความสูง ใครไม่กลัวเสียว บอกเลยว่าวิวกระจกริมหน้าผาของสะพานนี้สวยสะพรึง คุ้มค่ากับการมาแวะชมแน่นอน 

ปิดท้ายที่เที่ยวเวียดนามเหนือกันที่ ตามก๊ก (Tam Coc Bích dong) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จุดเด็ดไฮไลท์ดังของจังหวัดนิงห์บิงห์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร ตามก๊ก (Tam Coc) ชื่อนี้แปลตรงตัวว่า “สามถ้ำ” ด้วยทัศนียภาพอันงดงามของตามก๊ก ที่มีทั้งภูเขาน้อยใหญ่ แม่น้ำ และทุ่งนารายล้อม จึงทำให้ที่นี่ถูกขนานนามว่าเป็น “กุ้ยหลินแห่งเวียดนาม” และนอกจากนั้น ที่นี่ยังมีลักษณะภูมิทัศน์คล้ายคลึงกับ ฮาลองเบย์ (Halong Bay) ทำให้ชาวต่างชาติ มักเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า "Halong Bay On Land" หรือ "ฮาลองบก" นั่นเอง 

เนื่องจากตามก๊กมีแม่น้ำงอด็อง (Ngô Đồng) ไหลผ่าน และกัดเซาะภูเขา จนเกิดเป็นถ้ำหินปูนและมีน้ำไหลลอดถ้ำด้วย หากใครได้มาเที่ยวที่นี่ กิจกรรมที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดคือ การนั่งเรือชมวิวสองฝั่งรอบแม่น้ำงอด็อง ชมวิถีชีวิตชุมชน ทุ่งนาตามก๊ก (Tam Coc Rice Field) และพายเรือลอดใต้ถ้ำ ชมหินงอกหินย้อยภายในถ้ำทั้งสาม คือ ถ้ำฮางบา (Hang Ba Cave) ถ้ำฮางฮาย (Hang Hai Cave) และถ้ำฮางก่า (Hang Ca Cave) รับรองว่าจะได้ประสบการณ์และความสนุกประทับใจกลับไปไม่น้อยเลยล่ะ